อย่าเพิ่งเริ่มทำธุรกิจถ้าคุณยังไม่อ่านบทความนี้
เช็คดูตัวเองก่อนครับว่าคุณมีสัญญาณทั้งหมดนี้ครบหรือยังเช็คดูกันว่าคุณพร้อมที่จะเป็นนักธุรกิจแล้วหรือยัง
ข้อที่ 1. อย่าเพิ่งเริ่มทำธุรกิจถ้าคุณยังไม่มีเงินลงทุน เพราะการทำธุรกิจคือการเอาเงินมาต่อเงินหากคุณอยากได้เงินเร็วๆคุณต้องไปทำเป็นลูกจ้างครับทำวันละวันได้เท่านั้นได้เท่านี้ได้ทุกวัน แต่การทำธุรกิจต้องมีการฟูมฟักวางแผนครอบครัวเพื่อจะได้ผลตอบแทนที่ดีและคุ้มค่า ในบางครั้งธุรกิจใหญ่ๆต้องใช้เวลานานสำหรับการลงทุนเป็นปีปี จนกระทั่งกว่าธุรกิจจะเติบโตได้และสร้างผลกำไรได้การทำธุรกิจต้องใช้ความอุตสาหะความพยายามมุ่งมั่นอดทนเป็นอย่างมาก
เพราะฉะนั้นคุณอย่าเริ่มทำธุรกิจโดยที่ไม่มีเงินเด็ดขาด
ข้อที่ 2 อย่าทำธุรกิจเพียงเพราะต้องการเวลา หลายคนเบื่องานประจำต้องไปต่อบัตรแต่เช้าออก 17:00 น เพื่อใน
การกระทำให้ซ้ำซากอยากมีอิสระอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองเลยนึกอยากหันมาทำธุรกิจเพื่อต้องการเวลาที่เป็นของตัวเองให้มากขึ้น การทำธุรกิจเหมือนกับการมีลูกครับคุณลองคิดดู การทำธุรกิจไม่ใช่แค่ 08:00 น ถึง 17:00 น นะครับแต่มันเป็น 24 ชั่วโมงใน 7 วันคุณต้องคอยนั่งคิดหาวิธีปลูกฟักหรือทำยังไงให้ธุรกิจเติบโตและก้าวต่อไปได้โดยที่ไม่ขาดทุน เพราะในการทำธุรกิจจะมีปัญหาร้อยแปดพันประกาศมาให้คุณแก้ไขอยู่ตลอดเวลาข้อที่ 3 อย่าเพิ่งเริ่มทำธุรกิจถ้าคุณยังไม่รู้จักตราดของธุรกิจนั้นดี เพราะหลายๆคนเริ่มต้นทำทุกสิ่งทุกอย่างตามคนอื่นได้ยินคนนั้นว่าดีคนนี้ไม่ดีก็คิดอยากจะทำตามโดยที่ไม่รู้ข้อมูลรายละเอียดและตลาดของสิ่งเหล่านั้น ใครว่าเปิดร้านอาหารดีคุณก็จะเปิดใครว่าทำก๋วยเตี๋ยวดีคุณก็จะทำแต่คุณไม่ได้ศึกษาเรียนรู้อย่างจริงจังไม่รู้จุดแข็งไม่รู้จุดอ่อนของธุรกิจของสิ่งเหล่านั้นทำไปสักพักก็หยุดแล้วบอกทำไม่ได้ไปไม่รอด ซึ่งการทำธุรกิจคุณต้องรู้จักจุดแข็งจุดอ่อนของตลาดของสินค้าที่คุณต้องทำรู้จุดแข็งจุดอ่อนของตัวคุณเองด้วย
ยกตัวอย่างเคสการขายสินค้ากับลูกค้าถามกลับไปว่าสินค้าของคุณแตกต่างจากคู่แข่งตลาดอย่างไรสินค้าไม่แตกต่างกันบริการไม่แตกต่างกันแล้วทำยังไงถึงจะขายสินค้านั้นได้ข้อนี้ที่คุณต้องดูจุดแข็งจุดอ่อนของคุณเองและคู่แข่งแล้วหาวิธีสร้างข้อได้เปรียบเพื่อปิดการขายให้ได้
ซึ่งแน่นอนคุณต้องมี 2 อย่างนี้เข้าแลก ทำไมลูกค้าต้องซื้อกับคุณคุณต้องหาวิธีสร้างข้อแตกต่างให้ได้มากกว่าสินค้าชนิดเดียวกันกับคู่แข่งในตลาด 2 ทำไมต้องตอนนี้คุณต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่าทำไมคุณต้องทำตอนนี้ต้องเปิดธุรกิจตอนนี้หากคุณยังไม่รู้จักคำตอบนี้ในใจแนะนำว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจทำธุรกิจ เพราะมันบ่งบอกได้เลยว่าคุณยังไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงลักษณะรูปแบบธุรกิจที่คุณต้องการจะทำ
ข้อที่ 4. อย่าเพิ่งเริ่มทำธุรกิจถ้าคุณยังไม่อึดพอ ซึ่งไม่ได้หมายถึงความอึดทางด้านร่างกายแต่เป็นความอึดทางจิตใจว่าคุณจะสามารถรับแรงกดดันจากสิ่งภายนอกได้หรือไม่ ลูกชิ้นวันนี้พรุ่งนี้คุณจะโดนคำพูดจากบุคคลรอบข้างที่ไม่เห็นด้วย หรือเดือนนี้อาจจะขาดทุนปีแรก 2 ปีขาดทุนคุณต้องดิ้นรนรับแรงกดดันเพื่อให้ธุรกิจของคุณไปต่อได้ โดยที่ช่วงแรกๆคุณอาจไม่มีกำไรเลย เพราะนั่นหมายถึงการขาดทุนสะสมแล้วคุณจะทนได้แค่ไหนครับ ผู้ประสบความสำเร็จรายใหญ่ๆล้วนประสบปัญหาเหล่านี้มาแล้วทั้งนั้นเพียงแต่เขาไม่เล่าส่วนนี้ให้คุณฟังเขาจะเรียกเราเฉพาะส่วนที่มันหอมหวานให้คุณอิงกับธุรกิจของเขาเพียงเท่านั้น การฟังเขาเล่ามากับเจอของจริงมันแตกต่างกันเยอะครับ
ข้อที่ 5 ข้อนี้สำคัญครับอย่าเพิ่งเริ่มธุรกิจถ้าคุณยังปิดการขายไม่เป็น หลายธุรกิจครับที่เปิดตัวขึ้นมาแล้วต้องปิดไปเพราะขาดเงินทุนหมุนเวียนเนื่องจากไม่สามารถทำการตลาดและปิดการขายสินค้าได้ มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณทำสินค้ามาพูดดีแต่ไม่สามารถทำการตลาดหรือปิดการขายสินค้าของตัวเองได้
สิ้นแน่นอนครับถ้าคุณปิดการขายสินค้าของคุณเองไม่ได้คุณก็จะขาดเงินทุนหมุนเวียนที่จะเข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจและบริษัทของคุณได้นั่นหมายถึงว่าบริษัทของคุณหรือธุรกิจของคุณจะไม่มีทางโตจนสุดท้ายก็ต้องปิดตัวลงเท่านั้นเองครับ
ผู้ทำธุรกิจทุกคนต้องรู้ข้อที่ 5 นี้เป็นสำคัญเลยครับต้องรู้วิธีการ กลยุทธ์ จิตวิทยา ทำยังไงให้ลูกค้าซื้อสินค้ากับคุณได้ ดังนั้นหากคุณยังไม่เก่งพอหรือยังไม่มีสกิลมากพอสำหรับการโน้มน้าวลูกค้าหรือผู้ร่วมธุรกิจให้เข้ามาร่วมธุรกิจกับคุณได้อย่าเพิ่งตัดสินใจทำธุรกิจครับ
ครับถ้าคุณสนใจอยากจะเรียนรู้ทักษะเหล่านี้คุณสามารถติดตามข้อมูลเรานี้ ทางเว็บไซต์และก็บล็อกของเราได้ทุกวันครับเราจะมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาให้คุณได้ศึกษาเรียนรู้อยู่ตลอดแน่นอนครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น